วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม ( Behaviorism )


                      จอห์น บี วัตสัน (John B.Watson,1878-1958)  พฤติกรรมนิยม( Behaviorism ) นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน  ได้ประกาศแนวคิดของเขาว่า พฤติกรรมทั้งหลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนองคือพยายามศึกษาว่าเมื่อสิ่งเร้าชนิดต่างๆไปกระตุ้นร่างกายแล้วร่างกายตอบสนองอย่างไรแล้วสรุปเป็นทฤษฎีว่า การตอบสนองทุกอย่างของอินทรีย์จะต้องเกิดจากสิ่งเร้า ทั้งพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้และไม่ได้  เช่นการคิด การฝัน
             
                  กมลรัตน์  หล้าสุวงษ์ (2523:23) ได้สรุปแนวความคิดของกลุ่มพฤติกรรมนิยมไว้ว่าพฤติกรรมทุกอย่างจะต้องมีสาเหตุ สาเหตุนั้นมาจากวัตถุหรืออินทรีย์ ซึ่งเรียกสิ่งเร้า (Stimulus) เมื่อมากระตุ้นอินทรีย์ จะมีพฤติกรรมแสดงออกมาเรียกว่า การตอบสนอง (Response)
             
              http://dit.dru.ac.th/home/023/human/06.htm   ได้รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า พฤติกรรมทุกอย่างจะต้องมีสาเหตุพฤติกรรมเป็นการตอบสนองบุคคลต่อสิ่งเร้า มุ่งศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองซึ่งแยกย่อยไปได้เป็น 2 แนวคิด คือ แนวคิดของทฤษฎีที่ว่าด้วยการกำหนดเงื่อนไข (The Conditioning theory) ทฤษฎีที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ต่อเนื่อง (The Connectioning theory) ทฤษฎีที่ว่าด้วยการกำหนด เงือนไข เชื่อว่าสิ่งเร้าสิ่งหนึ่ง เมื่อไม่สามารถทำให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการ ต้องหาสิ่งเร้าอื่นที่เหมาะสมเข้าคู่ เพื่อทำให้เกิด พฤติกรรมนั้น ส่วนทฤษฎีที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ต่อเนื่อง เชื่อว่าการตอบสนองหรือการกระทำใดก็ตามเมื่อได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และ แก้ปัญหาได้ บุคคลจะจำการตอบสนองหรือการกระทำนั้นๆ ไปใช้ในสถานการณ์อื่นที่คล้ายสถานการณ์เดิมอีก
           
สรุป
         ทฤษฎีนี้เป็นการมองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะที่เป็นกลาง คือ ไม่ดี ไม่เลว (neutral - passive) การกระทำต่างๆ ของมนุษย์เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (stimulus - response) การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง กลุ่มพฤติกรรมนิยมให้ความสนใจกับพฤติกรรมมาก เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด สามารถวัดได้และทดสอบได้และเชื่อว่าการตอบสนองหรือการกระทำใดก็ตามเมื่อได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และ แก้ปัญหาได้
แหล่งอ้างอิง
ที่มา:สุชา  จันทร์เอม.(2514),จิตวิทยาทั่วไป.สำนักพิมพ์ประสานมิตร
ที่มา  http://www.tumcivil.com/engfanatic/board/gen.php?topic_id=13741&hit=1 เข้าถึงเมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.. 2555
ที่มา: http://dit.dru.ac.th/home/023/human/06.htm.  เข้าถึงเมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น