1.ชื่อเรื่อง ( The Title )
ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ และ อัจฉรา ชำนิประศาสน์ (2537:33) กล่าวว่า การตั้งชื่อเรื่องวิจัยมีแนวคิดแบ่งออกได้เป็น2แนวคิดคือการตั้งชื่อเรื่องวิจัยให้มีความหมาย มีความยาวเท่าใดก็ได้แต่ต้องกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน ให้ผู้อ่านงานวิจัยรู้ว่าทำการวิจัยอะไร กับใคร ที่ไหน เมื่อใด การตั้งชื่อเรื่องวิจัยอย่างสั้นๆที่บอกความสัมพันธ์ของตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะอยู่ในขอบเขตของการวิจัย
เอกวิทย์ แก้วประดิษฐ์ (2534:32) กล่าวว่า ต้องเป็นชื่อที่กะทัดรัด มีเนื้อความที่ชัดเจน มีความหมายในตัวมันเอง โดยสามารถสื่อความหมายให้ผู้อื่นทราบได้ต้องตั้งชื่อให้แสดงถึงมโนมติ (Concept) ของตัวแปรหรือแสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรในปัญหานั้นๆ ต้องใช้ภาษาให้ชัดเจนเข้าใจง่าย ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับงานวิจัยของผู้อื่น ถึงแม้ประเด็นที่ศึกษาจะคล้ายกันก็ตาม
Eduzones PR News Follow ( http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 ) กล่าวว่า ชื่อเรื่องควรมีความหมายสั้น กะทัดรัดและชัดเจน เพื่อระบุถึงเรื่องที่จะทำการศึกษาวิจัย ว่าทำอะไร กับใคร ที่ไหน อย่างไร เมื่อใด หรือต้องการผลอะไร
สรุป
ชื่อเรื่อง หมายถึง การตั้งชื่อเรื่องวิจัยเป็นการตั้งชื่อเพื่อเป็นการสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเราสนใจที่จะทำเรื่องอะไร ชื่อเรื่องควรมีความกะทัดรัดชัดเจนเข้าใจง่าย เพื่อระบุเรื่องที่จะทำอะไรที่แน่นอน
แหล่งอ้างอิง
ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ และ อัจฉรา ชำนิประศาสน์ . (2537). ระเบียบวิธีการวิจัย.
กรุงเทพฯ : พิมพ์ดีการพิมพ์จำกัด.
กรุงเทพฯ : พิมพ์ดีการพิมพ์จำกัด.
เอกวิทย์ แก้วประดิษฐ์ . (2534). การวิจัยเทคโนโลยีการศึกษา. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น จัดพิมพ์.
Eduzones PR News Follow. [ออนไลน์]. http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 .
เข้าถึงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555
เข้าถึงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น